เมื่อจินตนาการถึงใครบางคนที่ติดการเล่นวิดีโอเกม คุณอาจนึกภาพเด็กผู้ชายอายุ 14 ปีที่ติดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา แต่ในความเป็นจริง อายุเฉลี่ยของเกมเมอร์กำลังเพิ่มขึ้น และจากการประมาณการปี 2016 ตอนนี้อายุ 35 ปีแล้ว
อายุเฉลี่ยของเกมเมอร์เปลี่ยนไป การเล่นเกม E-sports ก็เช่นกัน ในขณะที่บางคนมีการตั้งค่าที่ซับซ้อนมากขึ้นที่บ้าน แต่อีกหลายคนหันไปใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเพื่อเล่นเกม E-sports เป็นช่วงๆ ตลอดทั้งวัน วิวัฒนาการนี้ทำให้การเล่นเกมแบบสบาย ๆ กลายเป็นรูปแบบความบันเทิงที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การติดเกมกลายเป็นประเด็นที่น่าวิตกมากขึ้น
ความกังวลนี้อาจดูเหมือนมีหลักฐานยืนยัน แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่ามีคนเพียงไม่กี่คนที่เข้าข่ายเสพติด ในความเป็นจริง องค์การอนามัยโลกประมาณการว่าประมาณ 150 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาเพียงคนเดียวเล่นวิดีโอเกม แต่มีผู้คนเพียง 3 ถึง 4% เท่านั้นที่ติดยาเสพติด
ผลของวิดีโอเกมที่มีต่อสมอง งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการเล่นวิดีโอเกมกับผลกระทบที่มีต่อพฤติกรรมและส่วนต่างๆ ของสมอง
จากการศึกษาพบว่าการเล่นวิดีโอเกมมีผลดีต่อความสนใจ ทั้งการเอาใจใส่อย่างต่อเนื่องและการเอาใจใส่แบบเลือกสรร – สามารถมุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลเฉพาะในขณะที่ปรับแต่งสิ่งรบกวนสมาธิที่ไม่สำคัญ – สามารถปรับปรุงได้ด้วยการเล่นวิดีโอเกม E-sports
การวิจัยอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าการเล่นเกมสามารถเพิ่มขนาดและประสิทธิภาพของพื้นที่สมองที่เกี่ยวข้องกับทักษะการมองเห็น – ความสามารถในการระบุความสัมพันธ์ทางสายตาและเชิงพื้นที่ระหว่างวัตถุ